รู้จักกับศิลปะแบบนามธรรม 10 ประเภทที่น่าสนใจ

รู้จักกับศิลปะแบบนามธรรม 10 ประเภทที่น่าสนใจ

WIJIT

04 ก.พ. 2568
462

ศิลปะแบบนามธรรม (Abstract Art) เป็นรูปแบบศิลปะที่ไม่มุ่งเน้นการเลียนแบบวัตถุหรือรูปทรงในธรรมชาติที่สมจริง แต่เป็นศิลปะที่แสดงออกถึงความคิด อารมณ์ และจินตนาการของศิลปิน ผ่านเส้น สี พื้นผิว และองค์ประกอบทางศิลปะอื่น ๆ ศิลปะแบบนามธรรมมีความหลากหลายทั้งรูปแบบและแนวคิด โดยแต่ละประเภทจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และวิธีการสร้างสรรค์ที่แตกต่างกันไป บทความนี้จะพาทุกคนมารู้จักกับ ศิลปะแบบนามธรรม ว่ามีความน่าสนใจอย่างไรบ้าง

10 ศิลปะแบบนามธรรมที่น่าสนใจ

งานศิลปะนามธรรมบางชิ้นอาจดูเรียบง่าย แต่กลับซ่อนความหมายลึกซึ้งที่ผู้ชมต้องใช้ความรู้สึกในการสัมผัสและตีความ ซึ่งทำให้ Abstract Art กลายเป็นหนึ่งในศิลปะแนวร่วมสมัยที่มีอิทธิพลมากที่สุดในโลก เรามาดูความสวยงามของ 10 ศิลปะแบบนามธรรมกันเลย

1. การสะบัด หยด และสาดสี

ภาพการสะบัดสี
ภาพการสะบัดสี จาก donutaoos-images

ศิลปะนามธรรมแบบการสะบัด หยด และสาดสี เป็นหนึ่งในแนวทางการสร้างสรรค์ศิลปะแบบนามธรรมที่มีเอกลักษณ์และมีพลัง ความงามของศิลปะแนวนี้ไม่ได้อยู่ที่ความสมบูรณ์แบบหรือความสมจริง แต่เป็นการแสดงออกถึงอารมณ์ ความรู้สึก และพลังงานของศิลปินผ่านการเคลื่อนไหวของสีบนผืนผ้าใบ โดยไม่ยึดติดกับรูปทรงที่แน่นอน

จุดเด่นของศิลปะแบบการสะบัด หยด และสาดสี

  • การแสดงอารมณ์และพลังอย่างเสรี ผลงานแต่ละชิ้นจะสะท้อนถึงอารมณ์ของศิลปินในช่วงเวลานั้น เช่น ความสุข ความเศร้า หรือความตื่นเต้น นอกจากนี้การเคลื่อนไหวของสียังช่วยสร้างความรู้สึกพลิ้วไหวและมีพลังในงานศิลปะ
  • ความไม่สมมาตรที่สวยงาม ลวดลายของสีที่เกิดจากการสะบัด การสาดสี หรือหยดสี ไม่สามารถคาดเดาได้ ทำให้ผลงานมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
  • ดึงดูดสายตาด้วยสีและพื้นผิว การใช้สีที่หลากหลายเฉด เช่น สีสดใสหรือสีที่ตัดกัน สร้างความลึกและมิติในงานพื้นผิวที่เกิดจากการสะบัด การสาดสี หรือหยดสี ช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับชิ้นงาน

วิธีการสร้างงานศิลปะแบบการสะบัด หยด และสาดสี

แม้ว่าศิลปะแบบนี้จะดูเหมือนอิสระ แต่ศิลปินสามารถควบคุมการวางตำแหน่งของสีและลวดลายโดยการปรับความเร็ว ทิศทาง หรือปริมาณของสีได้ สำหรับวิธีการสร้างงานศิลปะแบบการสะบัด หยด และสาดสี ในขั้นแรกคือการเลือกสี โดยมักใช้สีน้ำมัน สีน้ำ หรือสีอะคริลิก เนื่องจากสามารถควบคุมความหนาและการไหลของสีได้ ต่อมาคือการเลือกพื้นผิว เช่น ผืนผ้าใบ กระดาษ หรือแผ่นไม้ สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคืออุปกรณ์ในการสะบัด หยด และสาดสี เช่น แปรงพู่กัน ขวดหยดสี หรือมือเปล่า จากนั้นมาเริ่มงานศิลปะกันเลย

  • วิธีการสร้างงานศิลปะแบบการสะบัด ใช้พู่กันจุ่มสีแล้วสะบัดให้สีตกกระจายบนผืนผ้าใบ กระดาษ หรือแผ่นไม้ ที่เตรียมไว้
  • วิธีการสร้างงานศิลปะแบบการหยด ใช้ขวดหรือแปรงหยดสีสร้างงานศิลปะในจุดที่ต้องการเพื่อสร้างจุดหรือเส้นที่น่าสนใจ
  • วิธีการสร้างงานศิลปะแบบการสาดสี ใช้มือหรืออุปกรณ์อื่นสาดสีด้วยพลังงานที่มากขึ้น เพื่อสร้างความเคลื่อนไหวในภาพ

2. บล็อกสี

ภาพการบล็อกสี
ภาพการบล็อกสี จาก sirylok2

ศิลปะนามธรรมแบบบล็อกสี เป็นหนึ่งในแนวทางการสร้างสรรค์ศิลปะแบบนามธรรมที่เน้นการใช้พื้นที่สีขนาดใหญ่ในการสื่อสารอารมณ์ ความรู้สึก และแนวคิดโดยตรง งานศิลปะแนวนี้ไม่มีการเลียนแบบวัตถุในธรรมชาติหรือรูปทรงที่ชัดเจน แต่มุ่งเน้นความเรียบง่ายและพลังของสีในการสร้างผลงาน

จุดเด่นของศิลปะแบบบล็อกสี

  • พื้นที่สีขนาดใหญ่ ศิลปะแนวนี้เน้นการใช้สีในพื้นที่ขนาดใหญ่บนผืนผ้าใบ โดยแยกสีออกเป็นบล็อกหรือชั้นของสีที่ไม่มีรายละเอียดมาก นอกจากนี้สีจะถูกนำเสนออย่างเด่นชัด เพื่อสร้างอารมณ์และความรู้สึกของพื้นที่
  • ความเรียบง่ายและสง่างาม ไม่มีรายละเอียดที่ซับซ้อนหรือการแสดงภาพที่สมจริง แต่กลับสร้างความลึกซึ้งผ่านการใช้สีและพื้นที่
  • สื่ออารมณ์ผ่านสี โดยสีแต่ละสีจะถูกเลือกอย่างพิถีพิถันเพื่อสื่อถึงอารมณ์ เช่น ความสงบ ความเศร้า หรือความมีชีวิตชีวา

วิธีการสร้างงานศิลปะแบบบล็อกสี

การสร้างงานศิลปะแบบบล็อกสีเน้นการใช้พื้นที่สีขนาดใหญ่เพื่อสื่อถึงอารมณ์และความรู้สึกโดยไม่พึ่งพารูปทรงที่ชัดเจน การสร้างงานศิลปะแนวนี้ต้องอาศัยการเลือกสี การจัดองค์ประกอบ และการลงสีที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง เริ่มสร้างงานศิลปะแบบบล็อกสีด้วยการเตรียมอุปกรณ์ในการสร้างงานศิลปะแบบบล็อกสี จากการเลือกสีตามอารมณ์ของศิลปิน เช่น สีฟ้าสำหรับความสงบ หรือสีแดงสำหรับความร้อนแรง

ต่อมาเตรียมผืนผ้าขนาดใหญ่เพื่อสร้างผลงาน จากนั้นวางแผนการจัดองค์ประกอบด้วยการสเก็ตช์หรือการจำลองก่อนลงมือจริง มาเริ่มลงสีในผลงานศิลปะด้วยการทาสีในพื้นที่ขนาดใหญ่ด้วยแปรงขนาดใหญ่หรือโรลเลอร์ จากนั้นปล่อยให้สีแห้งสนิทพร้อมตรวจสอบผลงาน และอาจมีปรับแต่งเพิ่มในส่วนที่ต้องการ

3. ลวดลายหินอ่อน

ภาพการบล็อกสี
ภาพลวดลายหินอ่อน จาก gettysignature

ศิลปะนามธรรมแบบลวดลายหินอ่อนเป็นแนวทางการสร้างสรรค์ที่เน้นการผสมผสานของสีให้เกิดลวดลายที่พลิ้วไหวคล้ายพื้นผิวของหินอ่อนตามธรรมชาติ ความงามของลวดลายนี้อยู่ที่ความไม่แน่นอนและการไหลรวมของสี ศิลปะแนวนี้ได้รับความนิยมทั้งในงานจิตรกรรม การตกแต่ง และการออกแบบผลิตภัณฑ์

จุดเด่นของศิลปะแบบลวดลายหินอ่อน

  • ลวดลายที่พลิ้วไหวและไม่ซ้ำกัน ทุกชิ้นงานมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพราะลวดลายที่เกิดขึ้นจากการผสมผสานของสีจะไม่สามารถทำซ้ำได้ โดยความพลิ้วไหวของลวดลายช่วยสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายและสงบได้เป็นอย่างดี
  • การแสดงออกถึงธรรมชาติ โดยลวดลายหินอ่อนช่วยสะท้อนความงามของธรรมชาติ เช่น การไหลของน้ำหรือเนื้อหินธรรมชาติ
  • สีสันที่โดดเด่น เพราะมีการใช้สีที่หลากหลาย ตั้งแต่สีพาสเทลอ่อนโยนไปจนถึงสีสดใส เพื่อเพิ่มความดึงดูดให้กับงาน

วิธีการสร้างศิลปะแบบลวดลายหินอ่อน

การใช้เทคนิคการผสมสีให้เกิดลวดลายไหลลื่น คล้ายกับเนื้อหินอ่อนธรรมชาติ วิธีนี้สามารถทำได้ด้วยเทคนิคที่หลากหลาย และเหมาะสำหรับศิลปินทุกระดับที่ต้องการสร้างงานศิลปะที่มีความเป็นเอกลักษณ์และสวยงาม สำหรับเทคนิคการสร้างลวดลายที่นิยม

  • การเทสี โดยเทสีแต่ละสีลงบนพื้นผิวแล้วให้สีผสมกันอย่างเป็นธรรมชาติ
  • การหยดและเป่า ทำการหยดสีลงบนพื้นผิวแล้วใช้ลมเป่าให้สีไหลเป็นลวดลาย
  • การลากลวดลาย เป็นการใช้แปรงหรือไม้ลากผ่านสีเพื่อสร้างเส้นที่คล้ายเนื้อหิน
  • การหมุน ให้ทำการหมุนสีบนพื้นผิวเพื่อสร้างการไหลที่พลิ้วไหว

ศิลปะนามธรรมแบบลวดลายหินอ่อนเป็นแนวทางการสร้างสรรค์ที่สื่อถึงความงามตามธรรมชาติและความผ่อนคลาย ดังนั้นการผสมผสานสีและการสร้างลวดลายที่ไม่แน่นอนทำให้งานศิลปะประเภทนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

4. ศิลปะแบบคิวบิสม์

ภาพการบล็อกสี
ภาพศิลปะแบบคิวบิสม์ จาก everettcollection

ศิลปะแบบคิวบิสม์ โดดเด่นในการแยกวัตถุออกเป็นชิ้นส่วนเรขาคณิต แล้วนำมาประกอบใหม่ โดยไม่มุ่งเน้นการเลียนแบบวัตถุจริง แต่แสดงถึงมุมมองที่หลากหลายในภาพเดียว นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นอีกมากมายดังจะกล่าวต่อไปนี้

จุดเด่นของศิลปะแบบคิวบิสม์

  • การแยกส่วนและประกอบใหม่ ศิลปะแบบคิวบิสม์แยกวัตถุออกเป็นรูปทรงเรขาคณิต เช่น สี่เหลี่ยม สามเหลี่ยม และวงกลม แล้วจัดวางใหม่ในรูปแบบที่แปลกตา
  • การแสดงมุมมองที่หลากหลายในภาพเดียว ภาพวาดสามารถแสดงมุมมองได้หลายด้านไม่ว่าจะเป็นด้านหน้า ด้านข้าง และด้านบน
  • การลดทอนรายละเอียด เน้นการลดรูปทรงของวัตถุให้เรียบง่าย แต่ยังคงเอกลักษณ์ที่สามารถจดจำได้
  • การเน้นสีและองค์ประกอบ ใช้สีเอิร์ธโทน เช่น สีน้ำตาล สีเทา และสีเหลืองในช่วงเริ่มต้น และพัฒนาสู่การใช้สีสดใสมากขึ้นในภายหลัง

วิธีการสร้างงานศิลปะแบบคิวบิสม์

เลือกหัวข้อ วัตถุที่เรียบง่าย หรือแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ ทำการแยกส่วนของวัตถุ โดยวาดวัตถุจากมุมมองที่หลากหลาย เช่น ด้านหน้า ด้านข้าง และด้านบน แบ่งวัตถุออกเป็นชิ้นส่วนเรขาคณิต จากนั้นนำชิ้นส่วนที่แยกไว้มาเรียงใหม่ในรูปแบบที่แสดงถึงการเคลื่อนไหวหรือตามองค์ประกอบแนวคิดที่ต้องการ จากนั้นใช้แปรงลงสีหรือเกรียงสร้างพื้นผิวให้หลากหลาย สร้างความลึกด้วยการใช้สีเข้มและสีอ่อน พร้อมเพิ่มเส้นหรือขอบเพื่อแยกส่วนต่าง ๆ ของวัตถุอีกครั้ง สุดท้ายทำการตรวจสอบองค์ประกอบของภาพและความสมดุลของสีเพื่อให้ผลงานสมบูรณ์

5. ศิลปะลายเส้น

ภาพการบล็อกสี
ภาพศิลปะลายเส้น จาก lanaelanor

ศิลปะนามธรรมแบบลายเส้น เป็นการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะที่เน้นการใช้เส้นเพื่อแสดงอารมณ์ ความคิด และจินตนาการ โดยไม่จำเป็นต้องอ้างอิงรูปร่างหรือวัตถุตามธรรมชาติ ลายเส้นเหล่านี้สามารถเป็นได้ทั้งเส้นตรง เส้นโค้ง หรือเส้นที่มีความซับซ้อนในรูปแบบต่าง ๆ สำหรับศิลปะลายเส้นเป็นการแสดงออกที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง สามารถสื่อสารได้อย่างลึกซึ้งโดยไม่ต้องใช้สีหรือรายละเอียดที่ซับซ้อน

จุดเด่นของศิลปะแบบลายเส้น

  • ความเรียบง่ายและชัดเจน ลายเส้นที่เรียบง่ายสามารถสร้างความรู้สึกสงบ ผลงานมักไม่มีรายละเอียดมาก แต่ดึงดูดผู้ชมด้วยเส้นที่มีเอกลักษณ์
  • การสื่ออารมณ์ผ่านเส้น โดยเส้นตรงอาจสื่อถึงความมั่นคง เส้นโค้งสื่อถึงความนุ่มนวลหรือการไหลของอารมณ์ ส่วนเส้นที่พันกันหรือซับซ้อนอาจแสดงถึงความวุ่นวาย
  • ความหลากหลายในรูปแบบ ลายเส้นสามารถเป็นรูปแบบที่สมมาตรหรือไม่สมมาตรก็ได้ นอกจากนี้ยังสามารถใช้เส้นสร้างรูปทรงเรขาคณิต ลวดลายที่ต่อเนื่อง หรือรูปแบบอิสระได้อีกด้วย

วิธีการสร้างศิลปะลายเส้น

เริ่มต้นด้วยการวางแผนลวดลาย กำหนดแนวคิดหรือธีมของภาพ เช่น การเคลื่อนไหวในธรรมชาติ รูปทรงเรขาคณิต หรือความรู้สึกภายใน จากนั้นทำการร่างลายเส้นบนกระดาษก่อน เพื่อวางโครงสร้างพื้นฐาน วาดลายเส้นโดยการใช้ปากกาหรือหมึกเพื่อวาดเส้นอย่างต่อเนื่อง อาจเป็นเส้นตรง เส้นโค้ง หรือเส้นที่พันกันไปมาที่ซับซ้อน ทำการลองวาดเส้นที่มีความหนาหรือบาง เพื่อเพิ่มมิติให้กับงาน หรือเพิ่มเส้นที่ซ้อนกันเพื่อเพิ่มความลึก

6. ศิลปะแบบเมมฟิส

ภาพการบล็อกสี
ภาพศิลปะเมมฟิส จาก rdesigns-images

ศิลปะนามธรรมแบบสไตล์เมมฟิส เริ่มต้นจากการออกแบบเฟอร์นิเจอร์และตกแต่งภายใน แต่ศิลปะแบบเมมฟิสก็ส่งอิทธิพลต่อวงการศิลปะ กราฟิกดีไซน์ และแฟชั่นทั่วโลก ศิลปะสไตล์นี้โดดเด่นด้วยการใช้สีสันสดใส รูปทรงเรขาคณิตที่ดูเรียบง่ายแต่มีชีวิตชีวา และการผสมผสานลวดลายที่ไม่ซ้ำใคร

จุดเด่นของศิลปะแบบสไตล์เมมฟิส

  • การใช้สีสันที่โดดเด่น สีที่ใช้มักเป็นสีสด เช่น สีชมพูสด สีเหลือง สีฟ้า สีเขียว และสีแดง มีการผสมผสานสีที่ตัดกันเพื่อสร้างพลังและดึงดูดสายตา
  • รูปทรงเรขาคณิตที่หลากหลาย การใช้เส้น วงกลม สี่เหลี่ยม และรูปทรงที่ไม่สมมาตร ทำให้มีการจัดวางรูปทรงในลักษณะที่ดูสนุกสนานและแปลกใหม่
  • ลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ โดยลวดลายที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการ์ตูน เส้นขีด หรือจุด และการวาดลวดลายที่ดูเป็นธรรมชาติและไม่สมบูรณ์แบบทำให้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
  • ความขัดแย้งที่ลงตัว การผสมผสานองค์ประกอบที่ดูไม่เข้ากัน เช่น การใช้สีสดกับสีพาสเทล หรือการรวมรูปทรงที่แปลกตา ทำให้ดูเหมือนขัดแย้งกัน แต่เป็นความขัดแย้งที่ลงตัว

วิธีการสร้างศิลปะแบบสไตล์เมมฟิส

ศิลปะแบบสไตล์เมมฟิสเป็นการออกแบบที่เน้นความสนุกสนาน สีสันสดใส และรูปทรงเรขาคณิตที่ดูเรียบง่ายแต่แปลกใหม่ การสร้างผลงานแนวนี้สามารถทำได้ทั้งแบบดิจิทัลและด้วยมือ สำหรับวิธีการสร้างงานศิลปะนี้ เรามาเริ่มจากการเลือกวัสดุที่เหมาะสม เช่น ผ้าใบ กระดาษ หรือโปรแกรมออกแบบกราฟิกสำหรับงานดิจิทัล จากนั้นเลือกชุดสีที่มีพลัง เช่น สีชมพูสด สีฟ้า สีเหลือง หรือสีเขียวมะนาว เพื่อสร้างความโดดเด่นและดึงดูดสายตา ต่อมาเริ่มสร้างรูปทรงเรขาคณิต เช่น วงกลม สี่เหลี่ยม หรือสามเหลี่ยม และจัดวางองค์ประกอบให้สมดุลโดยการซ้อนทับรูปทรงและเว้นพื้นที่ว่างเพื่อความสบายตา ในส่วนของลวดลายเล็ก ๆ เช่น จุด เส้นซิกแซก หรือเส้นคลื่นสามารถเพิ่มรายละเอียดและสร้างความสนุกสนานให้กับผลงานได้อีกครั้งในภายหลัง

7. ศิลปะแบบออร์แกนิก

ภาพการบล็อกสี
ภาพศิลปะออร์แกนิก จาก corelens

ศิลปะนามธรรมแบบออร์แกนิก เป็นรูปแบบศิลปะที่ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติและสิ่งมีชีวิตรอบตัว เน้นการใช้เส้น รูปทรง และลวดลายที่ดูอ่อนโยน โค้งมน คล้ายกับองค์ประกอบในธรรมชาติ เช่น ใบไม้ คลื่นน้ำ หรือรูปทรงของเซลล์ในร่างกาย ศิลปะออร์แกนิกมีความลื่นไหลและเป็นธรรมชาติ สื่อถึงความผ่อนคลายและการเคลื่อนไหวได้อย่างลึกซึ้ง

จุดเด่นของศิลปะแบบออร์แกนิก

  • รูปทรงที่ได้แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ เช่น ลวดลายคล้ายใบไม้ ดอกไม้ คลื่นน้ำ หรือองค์ประกอบทางชีวภาพ เน้นความโค้งมนและลื่นไหล
  • การสื่อถึงความเป็นธรรมชาติ ศิลปะออร์แกนิกสะท้อนความสงบ ความสมดุล และเชื่อมโยงระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ
  • อารมณ์ที่ลึกซึ้งและผ่อนคลาย ศิลปะแนวนี้ช่วยกระตุ้นความรู้สึกผ่อนคลาย

วิธีการสร้างศิลปะแบบออร์แกนิก

เริ่มต้นจากการหาแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ เช่น รูปทรงของใบไม้ คลื่นน้ำ หรือความโค้งมนของสิ่งมีชีวิต จากนั้นเลือกวัสดุที่เหมาะสม เช่น ผืนผ้าใบ กระดาษ หรือพื้นผิวที่สามารถรองรับสีได้ดี เลือกใช้สีที่สื่อถึงความเป็นธรรมชาติ เช่น สีเขียว สีฟ้า หรือสีเอิร์ธโทน เพื่อเพิ่มความลึกซึ้งให้กับผลงาน มาเริ่มวาดเส้นโค้ง รูปทรงกลม หรือรูปทรงอิสระที่ลื่นไหล โดยไม่ต้องยึดติดกับความสมบูรณ์แบบ ลงสีลักษณะนุ่มนวลและค่อยเป็นค่อยไป เพื่อสร้างบรรยากาศที่สงบและเป็นธรรมชาติ จากนั้นเติมลวดลายเพิ่มเติม เช่น จุด เส้น หรือรูปคลื่น เพื่อเพิ่มรายละเอียดและมิติให้กับงาน สุดท้ายให้ตรวจสอบองค์ประกอบของภาพเพื่อให้ทุกส่วนเชื่อมโยงและสร้างความสมดุลในผลงาน

8. ศิลปะแบบฮาล์ฟโทน

ภาพการบล็อกสี
ภาพศิลปะฮาล์ฟโทน จาก colanas-images

ศิลปะนามธรรมแบบฮาล์ฟโทน (Halftone Abstract Art) เป็นการสร้างงานศิลปะที่เน้นการใช้จุดและลวดลายที่ประกอบด้วยเฉดสีและความหนาแน่นต่าง ๆ เพื่อสร้างความลึกและความเคลื่อนไหวในภาพ ปัจจุบัน ฮาล์ฟโทนได้กลายเป็นแนวทางที่โดดเด่นในงานศิลปะนามธรรม กราฟิกดีไซน์ และสื่อดิจิทัล

จุดเด่นของศิลปะแบบฮาล์ฟโทน

  • การสร้างมิติด้วยจุด ศิลปะแบบฮาล์ฟโทนใช้จุดขนาดเล็กถึงใหญ่เพื่อแสดงความลึก ความเข้ม ให้เกิดมิติ และรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวของภาพ นอกจากนี้การจัดเรียงจุดยังช่วยสร้างความน่าสนใจในผลงาน
  • ความหลากหลายของลวดลาย สามารถใช้จุดเพื่อสร้างลวดลายเรขาคณิต ลวดลายโค้ง หรือการไล่เฉดสี
  • ความสัมพันธ์ระหว่างแสงและเงา ศิลปะแบบฮาล์ฟโทนเน้นการเล่นกับแสงและเงา โดยการจัดความหนาแน่นของจุดในพื้นที่ต่าง ๆ

วิธีการสร้างศิลปะแบบฮาล์ฟโทน

การสร้างศิลปะแบบฮาล์ฟโทน เริ่มต้นด้วยการวางแนวคิดและเลือกธีมของงาน เช่น การแสดงภาพเงา การไล่เฉดสี หรือการสร้างลวดลายเรขาคณิต จากนั้นใช้ปากกาหมึกดำสร้างจุดขนาดต่างๆและความหนาแน่นของจุดที่ต่างกันเพื่อสร้างมิติ หากสร้างศิลปะจากโปรแกรมกราฟิก สามารถใช้เครื่องมือสร้างฮาล์ฟโทนหรือบรัชพิเศษที่ช่วยให้จุดเรียงตัวได้อย่างเป็นระเบียบ ต่อมาทำการจัดองค์ประกอบ โดยควรคำนึงถึงความสมดุลของพื้นที่ว่างและการกระจายของจุดให้เหมาะสม เพื่อสร้างความลึกและความเคลื่อนไหวในภาพ เลือกสีที่สอดคล้องกับอารมณ์ของงาน เช่น สีขาว-ดำ สำหรับความคลาสสิก หรือสีสดใสสำหรับความทันสมัย

9. ศิลปะแนวเหนือจริง

ภาพการบล็อกสี
ภาพศิลปะแนวเหนือจริง จาก neoleo

ศิลปะนามธรรมแบบแนวเหนือจริงเน้นการสร้างภาพลักษณ์ที่ไม่อิงความเป็นจริง แต่สะท้อนความรู้สึก ความฝัน หรือจิตใต้สำนึกของศิลปิน ผลงานในแนวนี้มักเต็มไปด้วยความลึกลับและชวนให้น่าค้นหา โดยใช้สัญลักษณ์ รูปทรงที่ไร้ข้อจำกัด และสีสันที่โดดเด่นเพื่อกระตุ้นจินตนาการ

จุดเด่นของศิลปะแบบแนวเหนือจริง

  • ความอิสระในการแสดงออก ศิลปะแบบแนวเหนือจริงไม่มีข้อจำกัดทางรูปทรงหรือกฎเกณฑ์ของความเป็นจริง ศิลปินสามารถแสดงความคิดและอารมณ์ผ่านการใช้รูปทรงนามธรรมตามความคิดได้
  • สัญลักษณ์ที่ซ่อนความหมาย การใช้สัญลักษณ์ในลักษณะนามธรรมเพื่อสะท้อนความคิดลึกซึ้ง แต่ละองค์ประกอบในผลงานสามารถตีความได้หลายรูปแบบ
  • การใช้สีและรูปทรงเพื่อกระตุ้นจินตนาการ ใช้สีสดใสหรือสีที่ตัดกันเพื่อสร้างอารมณ์ พร้อมรูปทรงที่พลิ้วไหวหรือดูแปลกตา เพื่อสร้างความรู้สึกให้เชื่อมโยงกับความฝัน

วิธีการสร้างศิลปะแบบแนวเหนือจริง

เริ่มต้นด้วยการดึงแรงบันดาลใจจากจิตใต้สำนึก ความฝัน หรือจินตนาการที่แปลกใหม่ ศิลปินสามารถบันทึกความคิดหรือภาพในฝันที่ลึกลับและนำมาตีความในรูปแบบนามธรรมแนวเหนือจริง ควรเลือกสีที่สื่อถึงอารมณ์ที่ต้องการ เช่น สีอ่อนอย่างฟ้าหรือชมพูพาสเทลสำหรับบรรยากาศที่สงบ หรือสีเข้มอย่างดำและแดงเพื่อสร้างความลึกลับ จากนั้นเริ่มวาดรูปทรงที่ไม่สมจริงหรือดูเหมือนลอยอยู่ในอากาศ พร้อมเพิ่มองค์ประกอบที่แปลกตา ใช้เทคนิคไล่เฉดสีและการจัดองค์ประกอบที่ไม่สมดุลช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับผลงาน สุดท้ายให้ปรับแต่งรายละเอียดเพื่อสร้างความลึกและสื่อความหมายที่หลากหลาย ผลงานแบบเหนือจริงเน้นความอิสระและการแสดงออกทางอารมณ์ ทำให้ศิลปินสามารถสร้างสรรค์งานที่เป็นเอกลักษณ์และสะท้อนตัวตนได้อย่างชัดเจน

10. ศิลปะภาพนูนและประติมากรรมแบบนามธรรม

ภาพการบล็อกสี
ภาพศิลปะแนวเหนือจริง จาก gettyimagespro

ศิลปะนามธรรมแบบภาพนูนและประติมากรรมเป็นการสร้างสรรค์ที่ผสมผสานการใช้รูปทรงสามมิติและสองมิติเข้าด้วยกัน โดยเน้นการแสดงออกทางความคิดและจินตนาการผ่านพื้นผิว รูปทรง และมิติที่หลากหลาย ภาพนูนเป็นศิลปะที่สร้างมิติจากพื้นผิวราบ ขณะที่ประติมากรรมมีความลึกและการจัดวางในพื้นที่แบบสามมิติ ทั้งสองรูปแบบนี้ช่วยสร้างความรู้สึกที่ลึกซึ้งและเป็นเอกลักษณ์ในงานศิลปะ

จุดเด่นของศิลปะแบบภาพนูนและประติมากรรม

  • ความลึกและมิติ ภาพนูนช่วยเพิ่มมิติในงานสองมิติ โดยการยกพื้นผิวขึ้นบางส่วน ประติมากรรมมีมุมมองสามมิติ ทำให้ผู้ชมสามารถสัมผัสได้จากหลายทิศทาง
  • การแสดงออกอย่างอิสระ ไม่มีข้อจำกัดในเรื่องของรูปร่างหรือสีสัน สามารถสร้างรูปทรงที่ไม่สมจริงและล้ำจินตนาการ

วิธีการสร้างศิลปะแบบภาพนูน

เริ่มจากการเลือกพื้นที่เหมาะสม เช่น แผ่นไม้ ผ้าใบ หรือแผ่นโลหะ ซึ่งจะเป็นพื้นที่รองรับการสร้างสรรค์ผลงาน จากนั้นออกแบบลวดลายหรือรูปทรงนูนโดยใช้วัสดุอย่างปูนปลาสเตอร์ ดินปั้น หรือโฟม เพื่อสร้างมิติที่ยกตัวออกมาจากพื้นผิวหลัก ในการสร้างรูปทรง ควรกำหนดความสูงต่ำของชิ้นงานให้เหมาะสมเพื่อเพิ่มความลึกและความโดดเด่น ขั้นตอนต่อมาคือการลงสี ซึ่งสามารถเลือกสีเอิร์ธโทนเพื่อความสงบ หรือสีสดใสเพื่อเพิ่มพลังให้ผลงาน จากนั้นทำการเพิ่มรายละเอียดเพิ่มเติม เช่น การขูดพื้นผิว การปั้นลวดลาย หรือการแต้มสีในบางจุดเพื่อเพิ่มความซับซ้อนและมิติ สุดท้าย เคลือบผลงานด้วยสารเคลือบเพื่อปกป้องพื้นผิวและรักษาความคงทนของวัสดุ

ศิลปะแบบนามธรรม เป็นศิลปะที่เน้นการแสดงออกทางความคิด อารมณ์ และจินตนาการโดยไม่ยึดติดกับรูปแบบหรือความสมจริงในธรรมชาติ ศิลปะแนวนี้แบ่งออกเป็นหลากหลายประเภทตามที่ได้กล่าวมาข้างต้น โดยแต่ละประเภทของศิลปะแบบนามธรรมจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งในด้านการเลือกวัสดุ เทคนิค และการสื่อความหมาย ผลงานศิลปะแบบนามธรรมไม่ได้มีเป้าหมายเพียงเพื่อความสวยงาม แต่ยังสร้างแรงบันดาลใจและเปิดโอกาสให้ผู้ชมตีความในมุมมองที่หลากหลาย ทำให้ศิลปะแนวนี้ยังคงเป็นที่นิยมและมีอิทธิพลในวงการศิลปะสมัยใหม่

ขอขอบคุณข้อมูลจาก: shutterstock.com


บทความใกล้เคียง

ทั้งหมด
5 ข้อดีของการซื้อภาพวาดออนไลน์
17 กุมภาพันธ์ 2568
166 อ่าน
Facebook Page